Mars Atmosphere and Volatile Evolution (MAVEN) | |
---|---|
COSPAR ID | 2013-063A |
SATCAT no. | 39378 |
เริ่มต้นภารกิจ | |
วันที่ส่งขึ้น | 18 พฤศจิกายน 2556, 18:28 น. (UTC) |
ยานสำรวจอวกาศเมเว็น (อังกฤษ: MAVEN) ย่อจาก Mars Atmosphere and Volatile Evolution (ชั้นบรรยากาศและวิวัฒนาการของสารระเหยได้ของดาวอังคาร) เป็นยานสำรวจอวกาศที่ปฏิบัติภารกิจสำรวจชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร ดำเนินโดยองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ภารกิจนี้เป็นโครงการหนึ่งในแผนงานมาร์ส-สเค้าท์ (Mars Scout Program) ยานเมเว็นถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 ณ ฐานทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา นำส่งโดยจรวดพาหนะประเภทแอตลาส วี (Atlas V)
ยานเมเว็นใช้เวลาเดินทางจากโลกถึงดาวอังคารประมาณ 10 เดือน จากนั้นจึงถูกปรับเข้าสู่วงโคจรรอบดาวอังคารเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557 โดยวงโคจรดังกล่าวมีลักษณะเป็นวงรี ตำแหน่งใกล้ผิวดาวอังคารมากที่สุดอยู่ที่ 150 กิโลเมตร ส่วนตำแหน่งไกลจากผิวดาวมากที่สุดคือ 6,200 กิโลเมตร
ภารกิจของยานสำรวจอวกาศเมเว็นถือกำเนิดขึ้นจากแผนงานมาร์ส-สเค้าท์ (Mars Scout Program) ขององค์การนาซา ซึ่งภารกิจดังกล่าวนับเป็นโครงการลำดับที่สองของแผนงานนี้ ถัดจากโครงการลำดับแรกคือภารกิจโดยยานฟินิกส์ประมาณ 6 ปี แผนงานมาร์ส-สเค้าท์ มีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายของภารกิจสำรวจอวกาศไม่ให้เกิน 485 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อโครงการ ไม่รวมกับค่าขนส่งที่มีมูลค่าประมาณ 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันแผนงานนี้ถูกยกเลิกตั้งแต่ พ.ศ. 2553 แล้ว โครงการยานสำรวจอวกาศเมเว็นใช้งบประมาณทั้งสิ้น 485 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
องค์การนาซาได้คัดเลือกภารกิจยานสำรวจอวกาศเมเว็นในฐานะ ภารกิจมาร์ส-สเค้าท์ 2013 เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551 โดยการคัดเลือกดังกล่าวมีผู้เข้าชิง ได้แก่ ภารกิจ "The Great Escape" และโครงงานเสนออื่นอีก 8 ชิ้น
วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ยานเมเว็นถูกลำเลียงมาถึงศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เพื่อตระเตรียมการปล่อยยานขึ้นสู่อวกาศ จากนั้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ยานสำรวจอากาศจึงถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ ณ ฐานทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล จุดปล่อยหมายเลข 41 (Space Launch Complex 41) โดยบรรทุกไปกับจรวดชนิดแอตลาส วี หมายเลข 401 ยานเมเว็นจะเดินทางถึงดาวอังคารในเดือนกันยายน พ.ศ. 2557 พร้อมกับยานมาร์สออบิเทอร์มิชชันในวันใกล้เคียงกัน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เกิดภาวะปิดบริการของรัฐบาลกลางแห่งสหรัฐอเมริกา โครงการนี้ถูกยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่ถือว่าเป็นโครงการขนาดเล็กขององค์การนาซา ทำให้ได้รับงบประมาณสนับสนุนตามปกติ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับแผนการปล่อยยานในอีก 1 เดือนข้างหน้า
ยานสำรวจอวกาศเมเว็นเข้าสู่วงโคจรรอบดาวอังคารเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลาประมาณ 2:24 น. (UTC) ซึ่งยานดังกล่าวเดินทางจากโลกถึงดาวอังคารด้วยระยะทางกว่า 711 ล้านกิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 10 เดือน
จากการค้นพบลักษณะภูมิประเทศบางพื้นที่บนดาวอังคารที่คล้ายกับเส้นทางไหลของน้ำที่แห้งแล้ว รวมทั้งการค้นพบแร่ธาตุที่เกิดจากแรงกระทำของน้ำ สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่าครั้งหนึ่งแล้ว ดาวอังคารเคยมีชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นพอและอุ่นพอที่น้ำสามารถคงอยู่ในสถานะของเหลวและไหลบนพื้นดาวอังคาร แต่ต่อมาชั้นบรรยากาศของดาวได้กระจายหายออกไปในอวกาศ โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าภายในช่วงเวลาไม่กี่ล้านปี ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารหายไปถึง 99% จากการที่แกนของดาวอังคารเย็นตัวลง ทำให้สนามแม่เหล็กของดาวอ่อนลงมาก ส่งผลให้ลมสุริยะสามารถพัดเอาชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร ตลอดจนสารประกอบที่ระเหยได้อื่น ๆ ออกไปจนแทบสิ้น
เป้าหมายของยานเมเว็นคือการหาคำตอบเกี่ยวกับความเป็นไปของสภาพอากาศบนดาวอังคาร และนำข้อมูลจากการสำรวจมาวิเคราะห์และเรียบเรียงเป็นประวัติ ว่าแก๊สชนิดต่าง ๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศของดาวนั้นสูญหายไปได้อย่างไร การสำรวจของยานเมเว็นแบ่งภารกิจหลักออกเป็น 4 อย่าง ดังนี้
ยานสำรวจอวกาศเมเว็นสร้างและทดสอบโดย ล็อกฮีด มาร์ติน สเปซซิสเท็มส์ (Lockheed Martin Space Systems) โดยใช้ต้นแบบโครงสร้างเดียวกันกับยานมาร์สรีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์ และยาน 2001 มาร์ส ออดิสซี ตัวยานเป็นทรงลูกบาศก์ขนาด 2.3 เมตร × 2.3 เมตร × สูง 2 เมตร ด้านข้างทั้งสองฝั่งติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ โดยปลายแผงทั้งสองข้างติดตั้งเครื่องมือแมกนีโตมิเตอร์ ความยาวทั้งหมดจากปลายแผงถึงปลายแผงอีกฝั่งวัดได้ 11.4 เมตร เมื่อรวมเชื้อเพลิงทั้งหมดที่ใช้ในการขับเคลื่อนแล้ว ยานเมเว็นจะหนัก 2,454 กิโลกรัม หากไม่นับเชื้อเพลิงตัวยานจะหนัก 809 กิโลกรัม
ยานเมเว็นมีภารกิจสำรวจชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร โดยเฉพาะบรรยากาศชั้นบนและชั้นไอโอโนสเฟียร์ที่มีปฏิสัมพันธ์กับลมสุริยะ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่จะใช้วัดค่าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบรรยากาศ โดยผู้ผลิตเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้กับยานเมเว็นประกอบด้วย มหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ และศูนย์การบินอวกาศก็อดเดิร์ด